ในที่สุดความลับ
สรรพคุณทางยาของเห็ดหลินจือ
ก็ถูกเปิดเผยโดยวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย พบว่าภายในเห็ดหลินจือมีสารสำคัญทางยา
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
สารดังกล่าวคือ
กลุ่มสารโพลีแซ็กคาไรค์
(
Polysaccharides
)
ซึ่งสารกลุ่มนี้จะมีหลายชนิด
จะออกฤทธิ์รวมกัน
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด
บีเซลล์ (
B-cells
)
และ ที-เซลล์(T-cells)
ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของ
สารอิมมูโนโกลบูลิน
(Immunoglobulin)
และสารอินเตอร์ลิวคิน
(
Interleukin)
ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้ได้พูดไว้ในหัวข้อที่แล้วว่า
ถ้าร่างกายสามารถผลิตสาร 2 ชนิดนี้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
จะมีผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีและแข็งแรงเพิ่มขึ้น
สารอินเตอร์ลิวคิน(
Interteukin
)นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันได้แล้ว(
lmmunomodulation
)
ยังพบอีกว่าระบบภูมิคุ้มกันดังกล่าว
ยังสามารถต่อต้านไวรัส
(
Antivirus
)
และต่อต้านเซลล์มะเร็งโดยวิธี
ผ่านทางกลไกของระบบภูมิคุ้มกันและยังป้องกันการเกิดมะเร็ง(
Cancerchemoprevention
)
เนื่องจากเห็ดหลินจือแสดงฤทธิ์เพิ่ม ภูมิคุ้มกัน ต้านอ๊อกซิเดชั่นและกำจัดอนุมูลอิสระ
รวมถึงยังแสดงฤทธิ์ต่อต้าน
การถูกกดภูมิคุ้มกัน ที่เกิดจากการใช้ยาหลายชนิด
เช่นยารักษาโรคมะเร็งบางตัว พวกเคมีบำบัด
และยังปกป้องเซลล์ไขกระดูกที่ได้รับรังสีแกมม่า และรังสีโคบอล 60
สารกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญก็คือกลุ่มสาร
โพลิแซ็กคาไรค์
(
Polysaccharides
)
นอกจากนี้ยังพบอีกว่าในผู้ป่วยด้วยโรคระบบภูมิคุ้มกับบกพร่อง
เห็ดหลินจือมีสารสำคัญทางยาหลายชนิดที่แสดงฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส
HIV
ได้
โดยกลุ่มสารดังกล่าวจะไปแสดงฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส
HIV
ในขั้นตอนของเอนไซม์โปรติเอส
และกลุ่มสารที่แสดงฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส
HIV
คือ
กลุ่มสารไตรเทอร์ปินนอยด์ชนิดขม(
Bitter Triterpenoids
)
หลายชนิดได้แก่ beta
ganoderic acid , lucidumol B, ganodermanondiol ,ganodermanontriol
, และ
ganolucidic acid
A
สรุป
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพร
ที่มีคุณสมบัติทางชีวภาพ
และมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่กว้างขวาง
เป็นสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับ
และมีผลการศึกษาที่มีวิทยาศาสตร์รองรับสารสำคัญทางยา
ที่ใช้รักษาโรคต่างๆได้อย่างมากมาย
นับเป็นสมุนไพรที่ทรงคุณค่าแก่การใช้
และเป็นมรดกทางยาที่บรรพบุรุษได้ศึกษาไว้ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี
และยังคงใช้ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน |