โสม
เป็นรากของพืชทำให้แห้งอยู่ในตระกูล
Araliaceae
แบ่งคร่าวๆว่าเป็นโสมที่มีแหล่งกำเนิดจากเอเชียเรียก
Asian ginseng (
Panax ginseng
C.A., Meyer)ได้โสมจากประเทศ
จีน เกาหลี โสมจากประเทศอเมริกา American ginseng (
Panax quinquefolius L.
)
ให้ผลการรักษาน้อยกว่าจากเอเซีย อีกชนิดหนึ่งคือ
Siberian ginseng
ส่วนประกอบจะไม่เหมือนสองชนิดแรก ให้ผลการรักษาอ่อนสุด
โสมเป็นสมุนไพรซึ่งนิยมใช้ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันโดยประเทศทางตะวันออกเชื่อว่าเป็นยาครอบจักรวาลช่วยเพิ่มพลัง
โสมนี้ยังมีชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น โสมจีน โสมญี่ปุ่น
โสมเกาหลี โสมอเมริกา ผักกะโสม โสมไทย โสมดอกแดง
และโสมที่นิยมใช้กันมาพันปี คือ โสมเกาหลี หรือโสมอเมริกา
ซึ่งเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยาอย่างแท้จริง
โสมมีสารประกอบสำคัญทางยามากกว่า
200
ชนิดประกอบด้วยกลุ่มสำคัญๆดังนี้
|
5.)
กลุ่มสารอื่นๆ
เช่นวิตามิน เกลือแร่ น้ำมันหอมระเหย กรดไขมันเป็นต้น |
|
1.)
กลุ่มสารปรับสภาพ
(Ginsenoside
Rg1,Rb1,Ro)เป็นกลุ่มที่มีคุณประโยชน์สูงสุด
Rg1,Rb1จะส่งเสริมการ |
|
|
ทำงานซึ่งกันและกัน เหมือนหยินและหยางในยา |
|
|
2.)
กลุ่มสารสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และกล้ามเนื้อ |
|
3.)
กลุ่มสารที่ช่วยขจัดไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย
(Panaxans) |
|
4.)
กลุ่มสารต่อต้านปฏิกิริยาการก่อมะเร็ง
(Antioxidants) |
สารสกัดจากโสมมีผลต่อการทำงานของร่างกาย
1.
ระบบมีภูมิคุ้มกันโรค
สารสกัดจากโสมช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น
โดยเสริมการสร้างแอนตี้บอดี้และช่วยกระตุ้นเซลล์ของร่างกายให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันไป
เสริมการสร้างกล้ามเนื้อ
เพิ่มความต้านทานให้อวัยวะที่ยังไม่เป็นโรค
และเป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่
2.
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
สารสกัดจากโสมส่งผลให้หัวใจแข็งแรง
ควบคุมการเต้นของหัวใจและควบคุมความดันเลือด
ช่วยเพิ่มฮีโมโกบินให้สูงขึ้น ช่วยละลายลิ่มเลือด ลดคอลเรสเตอรอล
ช่วยขยายหลอดเลือด
ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน อันเป็นสาเหตุ
ของโรคความดันโลหิตและโรคหัวใจ
ช่วยลดปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือด
โสมช่วยผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนเลือด
วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด มือและเท้าเย็นเป็นต้น
3.
ระบบเผาผลาญอาหาร
สารสกัดโสมช่วยสร้างระบบความสมดุลพลังในร่างกาย
การดึงพลังงานสำรองมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยระบบการย่อยอาหารในกระเพาะควบคุมการหลั่งกรดในกระเพาะ
มีผลต่อระบบการเคลื่อนไหวที่ดี มีความกระตือรือร้น
และมีความอดกลั้นที่มากขึ้น
4.
ระบบสมองและความจำ สารสกัดโสม
Gisenoside
มีผลต่อระบบศูนย์กลางควบคุมความสามารถทั้งหมดโดยเฉพาะในสมองส่วนของ
Hypothalamus
เป็นที่ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนที่สำคัญ เช่น
Growth Hormone, Estrogen Hormone
ในเพศหญิงเป็นต้นและควบคุมระบบประสาทของร่างกาย
การกระตุ้นการทำงานของสมองส่งผลต่อการพัฒนาความสามารถในด้านการรับรู้และความจำ
รวมทั้งการผ่อนคลายของระบบเส้นประสาทที่ดีขึ้น
ช่วยระงับและลดความเครียดในสมอง
โสม
ช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานในเรื่องการควบคอลเรสเตอรอลและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้...
โสม
ช่วยบำรุงร่างกาย และเสริมการต่อต้านโรคภัยให้ดีขึ้น
โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมเร็ง จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง
ในช่วงที่ให้การบำบัด ด้วยเคมีบำบัด และช่วงพักฟื้น
..
โสม
มีผลต่อผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและการสืบพันธุ์
สารสกัดโสมช่วยเสริมการสร้างตัวอสุจิในท่านชาย
และสร้างความแข็งแรงของอวัยวะสืบพันธุ์
โสม
ยังมีส่วนช่วยปัญหาของวัยหมดประจำเดือน
ช่วยควบคุมระดับอารมณ์ และมีสารที่ช่วยให้ผิวเปร่งปรั่ง
รักษาผิวหนังให้ชุมชื่น
รวมทั้งช่วยป้องกันภัยจากรังสีแกรมมา
...
โสมเกาหลีกับระยะในการดูแลร่างกาย
ระยะที่1
ขจัดสิ่งผิดปกติ
ขจัดสิ่งแปลกปลอม,สารพิษตกค้าง,ธาตุที่เกินความจำเป็นต่างๆ
ในร่างกาย
เป็นช่วงแรกๆของการรับประทานโสม
ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการแสดงดังนี้เช่น คลื่นไส้ ร้อนใน
เวียนศีรษะ มีผื่นขัน มีอาการคัน เป็นต้น
ซึ่งเกิดจากการที่สารสกัดจากโสมเข้าไปทำปฏิกิริยาขจัดสารตกค้างต่างๆเหล่านั้นอาการชั่วคราวที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการใช้โสม
เพื่อการปรับสมดุลต่างๆนั้นเป็นอาการที่บ่งบอกถึงความเจ็บป่วยที่กำลังจะคืนสู่สภาพปกติหรือใกล้เคียง
อาการนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปซึ่งก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน
บางคนก็ไม่เกิดอะไรเลย
อาการเหล่านี้มักจะมีคนเข้าใจผิดว่าเป็นผลข้างเคียงหรือแพ้โสม
แต่จริงแล้วไม่ใช่ |
|
ระยะที่2
ปรับสภาพ
ปรับสภาพเลือด
ด้วยการช่วยเพิ่มการทำงานของระบบการสร้างเม็ดเลือดแดง
ช่วยให้ร่างกายนำเอาออกซิเจนบริสุทธิ์
เข้าไปเซลล์ต่างๆของร่างกายได้ดีขึ้น
และช่วยปรับสภาพความเป็นกรด ในระบบเลือดให้เป็นกลาง |
|
ระยะที่3
สร้างภูมิ
เสริมสร้างและปรับระบบภูมิคุ้มกัน
ช่วยซ่อมแซมเซลล์และระบบอวัยวะต่างๆในร่างกายให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เช่นระบบกล้ามเนื้อ ระบบกระดูก
link
ที่น่าสนใจไขข้อ
เส้นเอ็นเป็นต้น
|
ข้อมูลอ้างอิง: หนังสือชุดอาหารเพื่อสุขภาพ โสมเกาหลี
ราชันสมุนไพรแห่งโลกตะวันออก เขียนโดย สตีเฟ่น ฟลูเดอร์
M.A.,PH.D. |
โสมบำบัดทางเพศ
[
คัดลอกจากนิตยสารใกล้หมอ ปีที่
22
ฉบับที่ 12
ธันวาคม 2541] ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์
ศุกระฤกษ์
ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่การมีเงินมีทองมหาศาล
การไม่มีโรคร้ายคุกคามต่างหากที่เป็นลาภอันประเสริฐ
เพราะโรคร้ายบางโรคถึงมีเงินก็ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้
การไม่มีโรคน่าจะเป็นความสุขของการมีชีวิต
"การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ"
หรือ
"เซ็กซ์เสื่อม"
ก็ถือเป็นอาการป่วยอย่างหนึ่ง
ที่เอาความสุขไปจากชีวิตท่านได้เช่นกัน แน่นอนว่าอาการเซ็กซ์เสื่อม
ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ หรือมีความร้ายแรง
ขนาดที่จะคร่าชีวิตใครต่อใครได้
แต่ก็เป็นโรคที่สร้างความทุกข์ทรมาน
ให้กับคุณผู้ชายได้ไม่น้อยทีเดียว
และหากผู้ที่ต้องตกอยู่ในที่นั่งเช่นนี้
ยังหนุ่มยังแน่นด้วยแล้วก็คงทำให้ชีวิตเหี่ยวเฉาน่าดู
หากจะว่าไปแล้ว
การมีเซ็กซ์มีความสำคัญเช่นกัน เพราะ
ในขณะที่มีเซ็กซ์ร่างกายจะมีการหลั่งสารแอนโดฟิน
(สารที่สร้างความสุขและความกระปรี้กระเปร่า)
ออกมาด้วย การมีเซ็กซ์จึงเปรียบเสมือนกับเป็นการยืดอายุให้กับชีวิตอีกทางหนึ่ง
อย่าปล่อยให้ชีวิตอับเฉาไปกับอาการเซ็กซ์เสื่อม
หาวิธีรักษาเสียแต่เนิ่นๆ
"โภชนาบำบัด"
นับเป็นวิถีธรรมชาติที่บำบัดรักษา โรคร้ายได้หลากหลาย
โดยจะสังเกตเห็นได้ว่า ปัจจุบันได้มีการนำ
วิธีการรักษาด้วยสมุนไพรโบราณ ยาลูกกลอน หรือชีวจิต
มาใช้กับการรักษาโรคร้ายอย่างเอดส์และมะเร็ง
ที่แพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
สำหรับโภชนาบำบัดทางเพศนั้นต้องยกให้
"โสม" เพราะโสมได้ชื่อว่า
เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในกระตุ้นอวัยวะเพศ
ที่ไม่ยอมแข็งตัวของคุณผู้ชายสามารถกลับฟื้นขึ้นมา
แข็งตัวได้ดังเดิมได้
เพราะด้วยสรรพคุณที่โสม มีฤทธิ์อุ่นนั้น
ได้เป็นตัวกระตุ้นให้เลือดในร่างกายไหลเวียน
ไปเลี้ยงอวัยวะตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น รวมทั้ง
การไหลเวียนของเลือดบริเวณอวัยวะเพศด้วย
นอกจากนี้ยังมีการวิจัยเพิ่มเติมในระยะหลังๆ
พบว่า
องค์ประกอบบางอย่างในโสมมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศชาย
ที่เรียกว่า
"ไฟโตรแอนโดรเจน"
ซึ่งน่าจะเป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งของโสม ในการเข้าไป
เพิ่มฮอร์โมนเพศให้กับผู้ชาย
ทั้งนี้การฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
ก็ยังต้องตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์
ดังนั้นแนวทางในการปฏิบัติตน เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี เช่น
การรับประทานอาหารให้ครบ
5
หมู่ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
จึงนับเป็นสิ่งจำเป็นที่ท่านไม่ควรละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การออกกำลังกายนั้น ถือได้ว่า เป็นองค์ประกอบสำคัญ
ที่จะเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้เร็วขึ้น
เพราะ
การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อ
ช่วยให้การสูบฉีดเลือดได้ดีแล้ว ขณะที่ออกกำลังกายร่างกาย
ก็ยังมีการหลั่งสารแอนโดฟิน เช่นเดียวกับสารที่หลั่งออกมา
ขณะมีเพศสัมพันธ์
ที่สำคัญคือ การฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศด้วยวิถีธรรมชาติทางโภชนาบำบัด
นอกจากจะเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลแล้ว
ยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
|