| 
                        
                            
                              ตามตำรายาแผนโบราณว่า 
                        
                        เหง้า 
                        รสฝาดเฝื่อน ชักมดลูกให้เข้าอู่ แก้มดลูกพิการ แก้ปวดมดลูก 
                        แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา 
                        แก้ธาตุพิการอาหารไม่ย่อย แก้ริดสีดวงทวาร แก้ไส้เลื่อน 
                        ปรุงยาแก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ แก้โรคมะเร็ง 
                        และฝีภายในต่างๆ
                        
 
      
 เผยผลวิจัยสมุนไพร
ว่านชักมดลูก พบมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นยาหรืออาหารเสริมสำหรับกลุ่มสตรีคลอดบุตร-สตรีวัยหมดประจำเดือน 
แถมยังพบด้วยว่า ช่วยบำรุงกระดูก ผิวพรรณและทำให้อวัยวะเพศหญิงเต่งตึง 
   
 
  ศ.ดร.ภญ.ภาวิณี ปิยะจตุรวัฒน์ 
อาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ 
มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ได้วิจัยการออกฤทธิ์ของสารสำคัญใน ว่านชักมดลูก พบว่ามีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิงแต่ออกฤทธิ์อ่อนกว่า 
แพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาไทยนำมาใช้รักษาประจำเดือนมาไม่ปกติ มดลูกอักเสบ 
โดยเฉพาะการอักเสบหลังการคลอดบุตร นอกจากนี้ 
ยังพบว่ามีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งของน้ำดีและเกลือน้ำดี 
ส่งผลให้ลดระดับไขมันโคเลสเตอรอล บำรุงกระดูก ผิวพรรณ ทำให้อวัยวะเพศหญิงเต่งตึง   
      
อย่างไรก็ตาม ว่านชักมดลูกมีหลายสายพันธุ์ ปลูกหลายพื้นที่ 
ตนเองและคณะนักวิจัยจึงจัดทำโครงการรวบรวมสายพันธุ์ 
ปริมาณสารเคมีสำคัญในว่านชักมดลูก ปริมาณการใช้ที่เหมาะสม 
เพื่อเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมให้เกิดการใช้อย่างยั่งยืน 
       
  สำหรับรายงานการวิจัยว่านชักมดลูกพบว่า  
มีส่วนที่ตรงกับสรรพคุณยาไทยนั้น เป็นงานวิจัยฤทธิ์ของว่านชักมดลูกชนิด 
C.comosa โดยพบว่า 
                เมื่อฉีดสารสกัดเหง้าว่านชักมดลูกเข้าช่องท้องของหนูขาวเพศเมียที่ยังไม่โตเต็มที่ 
                        และถูกตัดรังไข่ออก พบว่าสารสกัดด้วยเฮกเซนมีฤทธิ์แรงที่สุดในการเพิ่มน้ำหนักมดลูก 
                        และปริมาณไกลโคเจน และยังทำให้เกิดการหนาตัวของเยื่อบุผิวช่องคลอด
                        โดยมีฤทธิ์น้อยกว่าฮอร์โมนเอสตราไดออล 
                        ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง 
                        แต่สามารถเสริมฤทธิ์ของฮอร์โมนเอสตราไดออลต่อมดลูกของหนูได้ 
                        แสดงให้เห็นว่าว่านชักมดลูกมีสาระสำคัญที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง
                         
                                
                        
                สารสกัดเหง้าด้วยเอธานอลสามารถลดฤทธิ์ของสารหลายชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นให้มดลูกหดตัว 
                        เช่น  
                        
                qzytocin, acetylcholine, serotonin 
                        
                        ฤทธิ์นี้อาจช่วยอธิบายสรรพคุณของว่านชักมดลูกในการบรรเทาอาการปวดมดลูกได้
                        
                
                และแก้ปวดประจำเดือนได้ 
                        
                             
                        การศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดของว่านชักมดลูกทั้งสองชนิด
                        
                         มีฤทธิ์การกระตุ้นการหลั่งน้ำดี และ    
                        ลดคอเลสเตอรอลและไดรกรีเซอไรค์ในเลือดได้ จากการที่ว่านชักมดลูกมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งน้ำดี 
                        จึงไม่ควรใช้ในผู้ที่มีปัญหาท่อน้ำดีอุดตัน 
                        หรือเป็นนิ่วในถุงน้ำดี และไม่ควรใช้ว่านชักมดลูกติดต่อกันเป็นเวลานาน 
                        หรือในขนาดสูง เพราะจะทำให้มีอาการปวดท้องได้
                        
                 
                        
                        
                        แต่เพิ่งเริ่มใช้ถ้ามีอาการปวดท้องแนะนำให้ลดขนาดการใช้ลง |